ธีระ เสร็จธุระ  ผงาดคว้าแชมป์รุ่นยักษ์ใหญ่เรือนั่งอาชีพ จีพี ในศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย "เจ็ตสกีโปรทัวร์ 2021"  สนามที่ 3 ที่หาดแหลมเจริญ จังหวัดระยอง  เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ขณะที่ สุภทัต ฟูตระกูล โค่น เพิ่มพล  ธีรพัฒน์พาณิชย์ คว้าแชมป์รุ่นมืออาชีพเรือนั่งนั่ง 1,100  ซีซี                          
                          
ศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย "เจ็ตสกีโปรทัวร์ 2021"  สนามที่ 3 วันตัดสินแชมป์ 5 ธ.ค. หาดแหลมเจริญ จังหวัดระยอง โดยมีนายวิชิต ศรีชลา นายกเทศมนตรีนครระยองเจ้าของพื้นที่ให้เกียรติชมการแข่งขันและมอบรางวัลให้นักกีฬา
                          รุ่นที่ทุกคนจับตามองคือ  รุ่นยักษ์ใหญ่ แรงและเร็วที่สุดในโลก เรือนั่งอาชีพ จีพี (Pro Am Runabout  GP) เลิศพงศ์ ขุนเจ๋ง แชมป์ 2 สนามแรก  ต้องลุ้นหนักหลังจากการแข่งขันวันแรก 2 โมโต เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. เรือมีปัญหาทำให้มีคะแนนตามหลัง ธีระ เสร็จธุระ ผู้มีคะแนนนำอยู่พอสมควร
                          เข้าสู่เกมโมโต 3 เลิศพงศ์ ออกสตาร์ตได้ดี เฉือน ธีระ ขึ้นนำเป็นที่ 1 ได้ก่อน  แต่ ธีระ ก็ไม่ยอมง่ายๆพยายามเกาะติดไปเรื่อยๆ  จนมาสบโอกาสแซงขึ้นนำในรอบสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1  ตามด้วย เพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ ที่แซงเข้าที่ 2 และ เลิศพงศ์ จึงเข้าที่ 3 ทำให้ ธีระ มีคะแนนนำห่างก่อนโมโตตัดสินแชมป์
                            
                            
                            
                            โมโตตัดสินแชมป์ เลิศพงศ์ กลับมาเป็นที่ 1 ได้แม้จะถูก ธีระ ไล่หนักในรอบสุดท้าย ธีระ เข้าที่ 2 และ เพิ่มพล ตามมาเป็นที่ 3 รวมคะแนน 4 โมโต ธีระ ทำสำเร็จคว้าแชมป์ไปครอง 226 คะแนน  รองแชมป์เป็น เลิศพงศ์ 204 คะแนน และอันดับ 3 เพิ่มพล 183 คะแนน
                          รุ่นสูงสุดของเจ็ตสกียืน  เรือยืนอาชีพ โมดิฟายด์ (Pro  Am Ski Modified) โอเมิด สารี่ ยอดนักแข่งกัมพูชา  ยังแรงไม่หยุดหลังจากคว้าชัย 2 โมโตแรกได้แล้ว เข้าสู่โมโต 3 ยังทิ้งคู่แข่งเข้าที่ 1 ไปสบายๆ โดยมี นันทวัฒน์  สิงห์อุไร นักแข่งทีมชาติไทยเร่งแซง มุสตาน มิน เข้าเป็นที่ 2 ทำให้ยังพอมีลุ้นในโมโตสุดท้าย
                            
                             
                          
                            
                            แต่ โอเมิด ก็ยังไม่พลาดควบเจ็ตสกีคู่ใจได้แบบสม่ำเสมอ เข้าที่ 1  แบบไม่มีใครกดดัน ตามด้วย อานนท์ หงษ์กลาง และ นนทวัฒน์ จบ 4  โมโต โอเมิด มี 240 คะแนนเต็มคว้าแชมป์ไป รองแชมป์เป็น นนทวัฒน์ 202 คะแนน และอันดับ 3 มุสตาน  มิน 183 คะแนน
                          รุ่นนั่งอาชีพ  สปอร์ต จีพี (Sport  GP) สุภัค เสร็จธุระ แชมป์โลก และแชมป์ประเทศไทย 8 สมัย ยังฟอร์มสมราคานักแข่งอันดับ 1 ของโลกรุ่นนี้  ออกนำตั้งแต่ต้นจนจบในโมโต 3 กวาด 180  คะแนนเต็มนำขาด ขณะที่ ธีระ พี่ชายเข้าที่ 2 และ ธภัทรวัฒน์  โจสรรค์นุสนธิ์ ดาวรุ่งทีมชาติไทยเป็นอันดับ 3  ซึ่งเป็นอันดับเดียวกับ 2 โมโตในวันแรก
                            
                             
                          
                            
                            โมโตสุดท้ายก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอันดับเช่นกัน  จบ 4 โมโต สุภัค คว้าแชมป์รุ่นนี้ไปแบบมี 240 คะแนนเต็ม  รองแชมป์ ธีระ 212 คะแนน อันดับ 3  ธภัทรวัฒน์ 192 คะแนน
                          รุ่นเรือนั่งอาชีพ  1100 ซีซี ปรับแต่งเครื่องยนต์ได้ (Pro Runabout 1100 Open) เพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ แชมป์โลกและแชมป์ประเทศไทย  หวังจะพลิกสถานการณ์กลับมา หลังจากเรือมีปัญหาในการแข่งขันวันแรก ทำให้ สุภทัต ฟูตระกูล กับ ทศวนนท์ เผือกผ่อง มีคะแนนนำ 113 คะแนนเท่ากัน
                            
                             
                            
                            
                          โมโต 3  ทศวนนท์ เบียดขึ้นนำได้ก่อนในช่วงออกตัว โดย สุภทัต ไล่ติดเป็นที่ 2 จนสุดท้าย ทศวนนท์ พลาดเรือสะดุดไปเอง ทำให้อันดับร่วงลงไป ทำให้ สุภทัต ชิงอันดับ 1 ไปจนเข้าเส้นชัย มี เพิ่มพล ตามมาเป็นที่ 2 และ สุภัค เสร็จธุระ เป็นอันดับ 3 ขณะที่ ทศวนนท์ หลุดไปถึงที่ 5 ทำให้ สุภทัต  มีคะแนนนำได้เปรียบอย่างมากก่อนโมโตสุดท้าย
                          ในโมโตสุดท้าย  สุภทัต ยังแรงนำตั้งแต่ต้นจนจบเข้าที่ 1 อีกโมโต ตามด้วย เพิ่มพล และ สุภัค รวมคะแนน 4 โมโต สุภทัต คว้าแชมป์สนามนี้ 233 คะแนน ทศวนนท์ รองแชมป์ 191 คะแนน และอันดับ 3 เพิ่มพล 185 คะแนน
                            
                             
                          
                            
                            ด้านการแข่งขันเจ็ตเซิร์ฟ  ขิงแชมป์ประเทศไทย กีฬาทางน้ำที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น  แชมป์สนามนี้ยังเป็นของ ธรรมศักดิ์ เติมจิตอารีย์ เป็นการคว้าแชมป์ 3  สนามติดต่อกัน รองแชมป์สนามนี้เป็น จอง จินยอง นักแข่งเกาหลีใต้ และอันดับ 3 วัชรศักย์ จันทร
สำหรับการแข่งขันในสนามที่  4  ตัดสินแชมป์ประเทศไทย จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 ธ.ค.  โดยจะประกาศสนามแข่งขันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แต่ยังคงมาตรการป้องกัน โควิด-19 เน้นปฏิบัติคือ นักกีฬา และเจ้าหน้าที่ ทุกคน  จะต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด และก่อนเข้าสนามแข่งขันนักกีฬา  และเจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องตรวจ ATK (Antigen test kit) อีกครั้ง  เพื่อเป็นการยืนยันมั่นใจได้ว่าภายในสนามแข่งขันจะเป็นพื้นที่ที่ปลอดเชื้ออย่างแน่นอนสมบูรณ์  รวมถึงการจัดมาตรการ D-M-H-T-T-A ที่ต้องปฏิบัติอยู่ตลอดเวลาที่อยู่ในสนามแข่งขัน