เลิศพงศ์ ขุนเจ๋ง แรงปลายลุ้นถึงโมโตสุดท้ายคว้าแชมป์รุ่นยักษ์ใหญ่ของเรือนั่ง ศึกเจ็ตสกี ชิงแชมป์ประเทศไทย "เจ็ตสกี โปร ทัวร์ 2021" สนามที่ 2 ที่หาดจอมเทียน เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ขณะที่รุ่นสุดยอดเรือยืนแชมป์เป็นของ มุสตาน มิน นักแข่งกัมพูชา

ศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย "เจ็ตสกี โปร ทัวร์ 2021" ตัดสินแชมป์สนามที่ 2 เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่หาดจอมเทียน เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยการแข่งขันในรุ่นระดับมืออาชีพ 4 รุ่นยักษ์ใหญ่ของวงการเจ็ตสกีโลกที่ทำการแข่งขัน 4 โมโต ลุ้นสนุก หลังจากจาก 2 โมโตแรก มีคะแนนสูสีกันทุกรุ่น

รุ่นเรือที่แรงและเร็วที่สุดในโลก เรือนั่งอาชีพ จีพี (Pro Am Runabout GP) เป็นการลุ้นแชมป์กันของ เลิศพงศ์ ขุนเจ๋ง แชมป์สนามแรกที่มีตุนอยู่ 113 คะแนน กับ เพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ แชมป์ประเทศไทยปีที่แล้วที่มี 108 คะแนน เข้าสู่โมโต 3 ทั้งคู่ออกสตาร์ตในลู่ในคู่กัน แต่เมื่อออกตัวกลายเป็น ธีระ เสร็จธุระ ที่อยู่ลู่นอกที่ขึ้นนำก่อนในรอบแรก

เลิศพงศ์ ตามมาที่ 2 และ เพิ่มพล อยู่ที่ 3 สุดท้ายเกมโมโตนี้ ธีระ ควบเจ็ตสกีคู่ใจได้อย่างยอดเยี่ยมเข้าที่ 1 แบบไร้คู่แข่ง ขณะที่การสู้กันของ 2 ตัวเต็ง เพิ่มพล เร่งแซงคว้าอันดับ 2 ไปครองและ เลิศพงศ์ เข้าเพียงที่ 3 ทำให้คะแนน 3 โมโต ทั้งคู่มีคะแนนเท่ากันที่ 161 ไปชิงดำในโมโตสุดท้าย

เลิศพงศ์ กลับมาออกตัวได้ดีในโมโตตัดสิน ออกนำตั้งแต่รอบแรกตามด้วย ธีระ และ เพิ่มพล ซึ่งทั้ง 3 คนต่างใส่ความเร็วกันเต็มที่ แต่อันดับไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทำให้แชมป์สนามนี้ตกเป็นของ เลิศพงศ์ 221 คะแนน คว้าแชมป์สนามที่ 2 ติดต่อกัน รองแชมป์เป็น เพิ่มพล 214 คะแนน อันดับ 3 ธีระ 183 คะแนน

รุ่นสุดยอดเจ็ตสกียืน เรือยืนอาชีพ โมดิฟายด์ (Pro Am Ski Modified) อานนท์ หงษ์กลาง แชมป์ประเทศไทยสะสมคะแนน 2 โมโตแรกที่ 113 คะแนน ลุ้นแชมป์กับ โอเมิด สารี่ นักแข่งกัมพูชาที่่มี 108 คะแนน แต่ปรากฏว่าเกมโมโต 3 มีความพลิกผลันเกิดขึ้น เมื่อ โอเมิด เรือเสียไม่จบการแข่งขัน ขณะที่ อานนท์ ก็หลุดเป็นที่ 5

กลายเป็น มุสตาน มิน นักแข่งกัมพูชาอีกคนเข้าที่ 1 ตามด้วย นันทวัฒน์ สิงห์อุไร และ ภูริภัทร ทองก้อน รวมคะแนน 3 โมโต มีทั้ง อานนท์ ที่มี 152 คะแนน, มุสตาน มิน 146 คะแนน และ นันทวัฒน์ ที่มี 145 คะแนน ที่ได้ลุ้นแชมป์

โมโตสุดท้าย มุสตาน มิน ยังแรงเหมือนเดิมออกนำห่างตั้งแต่ต้นจนจบ มี นันทวัฒน์ เป็นอันดับ 2 และ ณัฐกร ภูภัคดี เป็นอันดับ 3 ส่วน อานนท์ หลุดไปอันดับ 4 ทำให้แชมป์สนามนี้กลายเป็นของ มุสตาน มิน 206 คะแนน รองแชมป์เป็น นันทวัฒน์ 198 คะแนน อันดับ 3 อานนท์ 195 คะแนน

รุ่นนั่งอาชีพ สปอร์ต จีพี (Sport GP) ผลงานจาก 2 โมโตแรก เป็นการลุ้นแชมป์กันของพี่น้อง ธีระ และ สุภัค เสร็จธุระ ที่มีคะแนนนำ 113 คะแนนเท่ากัน ซึ่ง โมโต 3 สุภัค แชมป์ประเทศไทย 8 สมัยชิงความได้เปรียบก่อน นำโด่งเข้าที่ 1 ตามด้วย ธีระ และ ธีรภัทร มีชัย ทำให้โมโตที่ 4 ธีระ ต้องเข้าที่ 1 เพียงอย่างเดียวเพื่อคว้าแชมป์

แต่ สุภัค ก็ออกตัวโมโต 4 ด้วยการขึ้นนำ ขณะที่ ธีระ ทำได้ไม่ดี ต้องไปไล้แซงคู่แข่ง ก่อนจะมาไล่ สุภัค แต่ก็ไม่ทัน สุภัค เข้าที่ 1 ตามด้วย ธีระ และ รวมคะแนน 4 โมโต สุภัค คว้าแชมป์สนามนี้มี 233 คะแนน ได้แชมป์ 2 สนามติดต่อกัน ธีระ รองแชมป์ 219 คะแนน และอันดับ 3 ณภัตร ศุภวัฒนกุล 171 คะแนน

รุ่นเรือนั่งอาชีพ 1100 ซีซี ปรับแต่งเครื่องยนต์ได้ (Pro Runabout 1100 Open) มี เพิ่มพล ธีระพัฒน์พาณิชย์ แชมป์โลกลุ้นกับ สุภทัต ฟูตระกูล ที่มี 113 คะแนนเท่ากันจาก 2 โมโตแรก แต่ในโมโต 3 สุภทัต พลาดท่าชนทุ่นตกน้ำ ก่อนแสดงสปิริตกลับมาแข่งต่อจนเข้าที่ 4 ส่วนที่ 1 เป็นของ เพิ่มพล ตามด้วย ทศวนนท์ เผือกผ่อง และ สุภัค เสร็จธุระ ทำให้ เพิ่มพล คะแนนลอยลำ

โมโตสุดท้ายแม้ว่า สุภทัต จะออกนำโด่งและเข้าที่ 1 แต่ เพิ่มพล ก็ควบเรือสบายๆเข้าที่ 2 คว้าแชมป์สนามนี้ไปครอง โดยมี ทศวนนท์ เผือกผ่อง เข้าที่ 3 รวมคะแนน 4 โมโต เพิ่มพล 226 คะแนน สุภทัต รองแชมป์ 212 คะแนน และอันดับ 3 เป็น ธีระ เสร็จธุระ 177 คะแนน

ด้านการแข่งขัน เจ็ตเซิร์ฟ กีฬาทางน้ำชนิดใหม่ สนามนี้แชมป์เป็นของ ธรรมศักดิ์ เติมจิตรอารีย์ ที่คว้าแชมป์เป็นสนามที่ 2 ติดต่อกัน รองแชมป์เป็น กิตติกร ทวีผล และอันดับ 3 กมลภพ สุนทรวิภาค

สำหรับการแข่งขันสนามที่ 3 จะไปทำการแข่งขันกันระหว่างวันที่ 4-5 ธ.ค. ซึ่งแม้จะยังไม่ประกาศสถานที่อย่างเป็นทางการ แต่ยังคงเน้นเรื่องมาตรการด้านสาธารณสุขที่นักกีฬา และเจ้าหน้าที่ ทุกคน จะต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด และก่อนเข้าสนามแข่งขันจะต้องตรวจ ATK (Antigen test kit) อีกครั้ง รวมถึงการจัดมาตรการ D-M-H-T-T-A ตลอดเวลาที่อยู่ในสนามแข่งขัน