“จรวดขะแมร์” โอเมิด สารี่ นักซิ่งบนผิวน้ำดีกรีเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ทีมชาติกัมพูชา มั่นใจสภาพความฟิตและความพร้อมของเรือแข่งคู่ใจ จะทำให้ตัวเองป้องกันแชมป์เจ็ตสกีโปรทัวร์ สนาม 2 ที่พัทยา ได้อย่างไม่ยากเย็น โดยเฉพาะการแข่งในสนามทะเลที่ต้องสู้กับคลื่นเป็นเรื่องถนัดเข้าทางอยู่แล้ว แต่จะไม่ประมาทคู่แข่ง อย่าง “ตัง”ภูริภัทร ทองก้อน ดาวรุ่งพุ่งแรง ที่เชื่อว่าจะขับเคี่ยวต่อสู้กันไปจนถึงสนามสุดท้ายแน่นอน
ศึกเจ็ตสกี รายการ “เจ็ตสกีโปรทัวร์ 2021” เตรียมระเบิดการชิงชัยสนามที่ 2 กันแล้ว ในระหว่างวันที่ 20-21 พ.ย. นี้ ณ หาดจอมเทียน เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี สังเวียนแข่งขันศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก เมื่อช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา โดยโฟกัสจะไปอยู่ที่การช่วงชิงตำแหน่งแชมป์ในรุ่นโปรซึ่งต้องแข่งกันถึง 4 โมโต ดังนั้นโอกาสคว้าแชมป์ประเทศไทยในแต่ละรุ่นจึงยังเปิดกว้างอยู่ในอีก 3 สนามที่เหลือ
โดยในส่วนของรุ่นเรือยืนมืออาชีพ โมดิฟาย (PRO AM SKI MODIFIED) “จรวดขะแมร์” โอเมิด สารี่ นักซิ่งบนผิวน้ำจากกัมพูชา สังกัด FLAMINGO JET SKI TEAM CHONBURI ผงาดคว้าแชมป์สนามแรกที่อุทัยธานีไปครอง หลังสร้างผลงาน เข้าที่ 1 ในโมโตแรก และเข้าที่ 2 ในโมโตสองและสาม ก่อนปิดเกมสวยด้วยที่ 1 โมโต 4 ทำคะแนนเข้าวินไปได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่ง โอเมิด ได้กล่าวให้สัมภาษณ์ถึงเส้นทางการเข้าสู่วงการเจ็ตสกีของตัวเองว่า ตนเป็นคนกัมพูชา จากเมืองกำปงจามที่อยู่ห่างจากพนมเปญเมืองหลวงไปประมาณ 150 กม. เส้นทางนักแข่งของตัวเองนั้นเริ่มจากมาเที่ยวเล่นหาน้าที่เมืองไทยตอนอายุ 13 ปี มาเห็นทีมฟลามิงโก้เขาเล่นเจ็ตสกีกันแล้วดูสนุกดี ก็เลยลองขี่เล่นบ้างและก็ชอบมาก ตามไปดูเขาแข่ง แล้วก็แอบซ้อมขี่ตลอด จนเจ้าของทีมเขาเห็นเลยชวนมาลงแข่ง เริ่มงานแรกที่งานวัดแปดริ้ว ตอนนั้นทีมส่งนักกีฬาไป 5 คน แล้วผมติดอันดับอยู่คนเดียว จึงได้เริ่มต้นจากตรงนั้นเรื่อยมา นักแข่งจากดินแดนปลากรอบ เล่าต่อไปว่า จริงๆแล้วผมเคยหยุดแข่งไป 4 ปี ช่วง 2014-2018 แล้วคัมแบ็คกลับมาใหม่ ซึ่งก็คว้าเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ประวัติศาสตร์ให้กัมพูชา ในปี 2018 นั้นเลย จากนั้นก็คว้าแชมป์โลกในนามทีมชาติไทยมาอีก 2 ปีซ้อน ซึ่งในส่วนตัวแล้วตนถนัดและชื่นชอบเรือยืนเพราะดูมันสง่างามมากกว่า เรือนั่งก็แข่งแต่ไม่สะใจเท่าเรือยืนซึ่งได้ลุ้นอยู่ตลอดเวลากับการควบคุมเรือที่ต้องมีสมาธิจดจ่อจริงๆ
ส่วนศึกโปรทัวร์สนามแรกที่ผ่านมา แม้จะได้แชมป์แต่บอกตามตรงว่าตนยังไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ เพราะเพิ่งกลับมาจากเที่ยวยุโรปแล้วต้องกักตัว 14 วัน จริงๆจะไปร่วมเวิลด์ซีรี่ส์ที่โปแลนด์แต่ไปไม่ทันเสียดายมาก สำหรับสนาม 2 ที่พัทยาคิดว่าร่างกายน่าจะฟิตเพิ่มขึ้นสัก 80 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับเรื่องของเรือแข่งตอนนี้ก็เร่งแก้ไขปัญหาต่างๆที่เจอมาในสนามแรก ต้องเช็คเครื่องและช่วงล่างให้เรียบร้อย ส่วนความแรงไม่กังวลเท่าไหร่ เพราะแข่งสนามทะเลต้องโต้คลื่นอยู่แล้ว ยังไงต้องเซฟช่วงล่างให้ดีเอาไว้ ซึ่งคิดว่าน่าจะทันสนามต่อไปแน่นอน “จริงๆแล้วผมชอบขี่สนามทะเลนะ ได้โต้คลื่น สู้คลื่น เร่งเครื่องได้แรงเต็มที่ มันส์ดีครับ ยิ่งถ้าร่างกายฟิต เรือไม่พัง ยิ่งสนุก ใส่กันได้เต็มที่เลย”
สำหรับข้อดีของการแข่งโปรทัวร์ต่อเนื่องเดือนต่อเดือนก็น่าจะส่งผลบวกต่อนักกีฬาที่ไม่ต้องเก็บตัวฝึกซ้อมนาน ส่วนข้อเสียเป็นเรื่องความพร้อมของเรือ ซึ่งถ้าเกิดเรือพังขึ้นมาอาจแก้หรือหาเรือสำรองไม่ทัน ดังนั้นเราต้องเตรียมพร้อมทุกอย่างให้สมบูรณ์ที่สุดถ้าต้องการประสบความสำเร็จในทุกสนาม
“ขณะที่คู่แข่งในสนามที่ 2 ก็คงเป็น ‘น้องตัง’ ภูริภัทร ทองก้อน เหมือนเดิม เพราะน้องอายุยังน้อยและฝีมือดีจริงๆ ประมาทไม่ได้เลยครับ ถ้าเขาขึ้นนำก็แซงยากเหมือนกัน เป็นนักแข่งที่น่าจับตามองมาก ผมเชื่อว่าเราต้องสู้กันจนถึงสนามสุดท้ายแน่นอน” ในตอนท้าย โอเมิด ได้ฝากถึงคู่แข่งที่ต้องเจอกันในสนาม 2 ที่พัทยาทุกคน ขอให้สู้กันอย่างสุดฝีมือเพื่อทำให้ผู้ชมมีความสุข ส่วนแฟนๆเจ็ตสกีที่คอยตามเชียร์ กดไลค์ กดแชร์ มาโดยตลอด ก็ต้องขอบคุณมากๆ และขอให้ติดตามเป็นกำลังใจนักกีฬาทุกคนตลอดไป แฟนๆ กีฬาเจ็ตสกี ห้ามพลาด!! สามารถติดตามข่าวสาร และ LIVE STREAMING ศึกเจ็ตสกีโปรทัวร์ 2021 ได้ที่ www.jetskiprotour.com และ เฟซบุ๊ก jetskiprotour