“เปิ้ล” นาคร ศิลาชัย ยอดซูเปอร์สตาร์ขาซิ่งเจ็ตสกีมือเก๋าเหล้ายี่ห้อของเมืองไทย เผยเคล็ดลับการเป็นแชมป์ประเทศไทยในศึกเจ็ตสกีโปรทัวร์รุ่นถนัด เรือนั่งระดับมืออาชีพ ซีดู 300 แรงม้า ห้ามปรับแต่งเครื่องยนต์ (SEADOO 300 HP Runabout Pro Stock) เกิดจากการซ้อมหนักกว่าคู่แข่งคนอื่นเป็นเท่าตัว ฝากถึงคู่ปรับรุ่นน้อง” แน็ค” ภาณุพันธุ์ ดิษฐี รองแชมป์เก่าในรุ่นนี้เมื่อปีที่แล้ว อาจได้เปรียบความสดของคนหนุ่มที่อายุต่างกันถึง 20 ปี แต่ไม่เคยหวั่นกลัวแม้แต่น้อย เพราะเชื่อมั่นในความเก๋า และ “วิธีคิด” ที่แตกต่างของตัวเองจะทำให้คว้าชัยไปได้ในที่สุด
ความพร้อมของยอดนักแข่งในศึก “เจ็ตสกีโปรทัวร์ 2021” (JET SKI PRO TOUR 2021) ที่นับถอยหลังสู่การประเดิมความมันส์สนามแรกกันแล้วในเร็ววันนี้ ซึ่งการชิงชัยของแต่ละรุ่นถือว่าน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เพราะนักแข่งแต่ละคนล้วนเป็นยอดฝีมือที่ซุ่มซ้อมเพื่อมาล่าแชมป์กันอย่างเต็มที่
ด้านซุเปอร์สตาร์เจ็ตสกีมือเก๋าเหล้ายี่ห้อ “เปิ้ล” นาคร ศิลาชัย กล่าวให้สัมภาษณ์เปิดใจแบบ Exclusive ถึงเส้นทางการแข่งขันเจ็ตสกีในระดับมืออาชีพของตัวเองจากจุดเริ่มต้นจนก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์ประเทศไทยและสูงสุดที่ตำแหน่งแชมป์โลกว่า 20 กว่าปีแล้ว ที่ตนทุ่มเทให้กับ “เจ็ตสกี” กีฬาที่ตัวเองหลงรักจนถอนตัวไม่ขึ้น โดยจุดเริ่มต้นมาจากการที่ตนเป็นคนบ้ากีฬามาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว เป็นนักกีฬาโปโลน้ำตัวแทนมหาวิทยาลัย และเกือบจะได้เป็นนักมวยของคณะด้วยในตอนนั้น แล้วก็ชื่นชอบกีฬาทางน้ำอย่าง วินด์เซิร์ฟ เป็นทุนเดิม เพราะเวลาอยู่ในน้ำแล้วรู้สึกมันสดชื่นดี เคยไปตีกอล์ฟเหมือนกันแต่อยู่ได้แค่ 6 ชั่วโมงก็ทิ้งไม้แล้ว เพราะมันไม่เหนื่อยไม่สะใจ เหงื่อซึมออกมานิดเดียวเอง ซึ่งแบบนี้มันไม่ใช่ตนที่ร่างกายต้องการการปะทะ
“จนมาวันนึงได้เล่นกีฬา “เจ็ตสกี” ก็รู้สึกว่ามันใช่เลย มันทำให้ร่างกายปวดร้าวได้ ผมเลยต้องการเอาชนะ คือจะขี่มันให้เป็น พอขี่เป็นปุ๊บก็เริ่มมีคนเห็นแวว ชวนให้มาลองแข่งชิงแชมป์ประเทศไทย ผมเลยซ้อมอย่างหนักเพื่อลงแข่ง และปีแรกก็ได้แชมป์ประเทศไทยเลย พอได้แชมป์ในประเทศก็อยากไปสนามที่ใหญ่กว่า เป้าหมายก็คือไปชิงแชมป์โลกที่เลคฮาวาซู ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่ง 4 ปีต่อมาก็ได้แชมป์โลกสมความตั้งใจ หลังจากนั้นก็ตระเวนไปแข่งชิงแชมป์ทั่วโลกเลย”
เปิ้ล-นาคร เผยว่าเคล็ดลับในการเป็นแชมป์ของตัวเองไม่มีอะไรซับซ้อน นอกจากต้องซ้อมให้เยอะ ซ้อมแบบที่ถ้าเรารู้ว่าแชมป์เก่าเขาวิ่ง 1 ชม.เราก็จะวิ่งให้ได้ 2 ชม. ถ้าวันนึงเขาซ้อมน้ำมัน 1 ถัง เราต้องซ้อม 2 ถัง แล้ววันนึงเขาวิดพื้น 10ที เราต้องวิด 20 ที อย่างวันนึงเราจะไปแข่งชิงแชมป์โลก ปีนึงก่อนแข่งตนจะบินไปดูที่อเมริกาเลยว่าใครคือแชมป์โลก แล้วตนก็จะไปคุยกับเขาว่ามีวิธีการซ้อมยังไง หลังจากนั้นก็จะกลับมาซ้อมให้ได้มากกว่าเขา สรุปก็คือถ้าเราอยากเหนือคนอื่นเราก็ต้องขยันกว่าคนอื่น ทุกความสำเร็จคือที่ได้มา คือต้อง ซ้อม ซ้อมและซ้อม ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก ให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด จากสิบให้เหลือศูนย์ ซึ่งกีฬาทุกประเภท แพ้ ชนะ มันอยู่ที่การแก้ไขความผิดพลาด บางทีมันวัดกันด้วยเสี้ยววินาที ใครไม่พลาดเลยคนนั้นคือผู้ชนะ
“กีฬาทำให้เกิดหลักคิด เกิดปรัชญาในการใช้ชีวิตหลายอย่าง ที่ผมเอามาใช้ในการบริหารงานบริษัท และธุรกิจของตัวเองอยู่เสมอ หลายเรื่องผมก็ได้มาจากกีฬาเนี่ยแหละ ไม่ได้เรียนรู้มาจากไหนหรอก การสู้ในภาวะวิกฤติแบบนี้ก็เหมือนกัน ทำไมเราถึงรอดได้ มันไม่ใช่เพราะเราเก่งอะไรหรอก จริงๆแล้วทุกคนเก่งเหมือนกันหมด แต่อยู่ที่มุมมองมากกว่า อย่างงานของผมที่ทำอยู่มีหลายอย่าง ไม่กระทบอะไรมากทุกอย่างค่อยๆปรับกันไปตามสถานการณ์ งานวงการบันเทิงช่วงนี้ก็ไม่ไปสตูดิโออยู่แล้ว ทำออนไลน์อยู่ที่บ้าน 100 เปอร์เซ็นต์ วิกฤติสำหรับเรามันคือโอกาส อาจจะด้วยความที่ผมเป็นนักแข่งเจ็ตสกี สนามไหนเจอคลื่นลมแรงๆผมยิ่งบ้าระห่ำ หวังแต่พื้นเรียบ ก็ไม่ได้หรอกครับ ชีวิตอย่าหวังเจอแต่น้ำเรียบ ลงทะเลยังไงก็ต้องเจอคลื่น ถามว่าถ้าเราเจอคลื่นลมทะเล เราจะบ่นหรือเราจะสู้ล่ะ”
ส่วนความพร้อมในการป้องกันแชมป์ศึกโปรทัวร์ 2021 ที่ตัวเองเป็นเจ้าของแชมป์เก่าในรุ่น เรือนั่งระดับมืออาชีพ ซีดู 300 แรงม้า ห้ามปรับแต่งเครื่องยนต์ (SEADOO 300 HP Runabout Pro Stock) นั้น ยอดนักแข่งดัง เปิ้ล-นาคร กล่าวอย่างมั่นใจว่า ตนพร้อมเสมออยู่แล้วทั้งเรื่องของเรือแข่งที่ใช้เรือซีดูชิงชัยในรุ่นเดียว การเพิ่มเติมอุปกรณ์ก็ไม่มีอะไรมาก ตนไม่ค่อยแต่งอยู่แล้วเพราะแข่งในรุ่นสแตนดาร์ดเครื่องยนต์เดิมๆ มันอยู่ที่ยี่ห้อเรือว่าเราชอบใช้เรือยี่ห้อไหนมากกว่า อย่างของตนถนัดใช้ซีดูที่สุด เรื่องของทีมช่างก็ไม่มีปัญหาทีมของตนกักตัวดูแลตัวเองตลอดอยู่กับบ้าน ที่พัทยา จะแข่งเมื่อไหร่ก็พร้อมเมื่อนั้น เพราะเป็นทีมแข่งของเราเองคือ “เจ็ตสกีทีมบายนาคร” ซึ่งปีนี้มีสปอนเซอร์มาสนับสนุนเป็น “TQM เจ็ตสกีทีมบายนาคร”
|
|
เช่นเดียวกับสภาพร่างกาย ที่พร้อมรบตลอดเวลาเพราะดูแลตัวเองตลอดไม่เคยปล่อยตัว ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงฟิตเต็มร้อย ด้วยการวิ่งเป็นประจำให้กำลังอยู่ตัวอยู่ที่หน้าบ้านนี่แหละ หรือบางทีก็จ๊อกกิ้งอยู่ในบ้านแล้วแต่สะดวก “ผมโชคดีที่มีบึงส่วนตัว ไม่ต้องไปใช้ร่วมกับใคร ตอนนี้ก็ซ้อมขี่เจ็ตสกีกับลูกชาย “น้องออก้า” เพราะที่สร้างสนามนี้ขึ้นมาก็เพื่อปั้นลูกโดยเฉพาะเนี่ยแหละ ช่วงนี้ถ้าไม่มีบึงส่วนตัวอย่างนี้ก็ซ้อมลำบากหน่อย จะไปแม่น้ำ ทะเล ก็ต้องเป็นที่ที่ห่างๆคนเลย ถ้าบ้านใครอยู่ติดทะเลก็อาจจะโชคดี ห่างๆคนหน่อยก็ซ้อมได้ แต่ของเราเป็นบึงปิดในบ้านของเราเอง ก็มีผู้ใหญ่เมตตาให้เราได้ใช้สถานที่ทำเป็นสนามฝึกซ้อมมาหลายปีแล้วน่าจะ 8 ปีแล้ว อยู่เลียบด่วนจตุโชติ ใช้ชื่อลูกเป็นชื่อบึงเลย ชื่อ “บึงออก้า” ไว้ซ้อมส่วนตัวอย่างเดียว ไม่ได้ทำเป็นธุรกิจ”
สำหรับคู่แข่งที่น่ากลัวในปีนี้ ก็คงจะเป็น “แน็ค” ภาณุพันธุ์ ดิษฐี รองแชมป์เก่าในรุ่นนี้เมื่อปีที่แล้ว อายุห่างกับตนแค่ 20 ปีเอง เขาได้ความสดและแข็งแรงมาก ประสาคนหนุ่ม ส่วนตนได้ความเก๋า ก็อยากฝากบอกเขาว่า “แน็ค ก็น่ากลัวนะ แต่ไม่กลัวหรอก” เจอกันปีนี้สนุกแน่ เพราะจุดแข็งของตนไม่ได้อยู่ที่ความสด มันอยู่ที่ “วิธีคิด” คือนักกีฬาถ้าซ้อมให้ร่างกายแข็งแรงเท่ากันมันก็ซ้อมได้นะ ใครๆก็ทำได้ แต่การจูนมายเซ็ตให้คิดต่างกับคนอื่น ตรงนี้สำคัญกว่า อย่างนักมวยแชมป์โลก เช่น ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ กล้ามเนื้อไม่มีเลยนะแต่ทำไมชกร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง สมองไง เพราะเขามีวิธีคิดของเขา ที่ไม่เหมือนคนอื่น ส่วนวิธีคิดของตนไม่บอกหรอก บอกก็รู้หมดสิเดี๋ยวแน็ครู้ เขาแข็งแรงกว่าอยู่แล้ว ยังจะเอาวิธีคิดอีก หรือ แน็คผมก็เคยเป็นคนสอนเทคนิคให้นะ แต่เขาก็พัฒนาได้ด้วยตัวเขาเองเยอะ เขาเป็นนักแข่งที่ดี มีแววคนนึงเลยทีเดียว
ติดตามชมติดตามเชียร์ใน ศึกเจ็ตสกีโปรทัวร์ 2021 แฟนคอกีฬาที่ชื่นชอบความเร็วบนผืนน้ำ รวมทั้งแฟนๆ กีฬาเจ็ตสกีทั่วประเทศต้องไม่พลาด! ติดตามข่าวสารได้ทาง www.jetskiprotour.com และทางเฟซบุ๊ก jetskiprotour