3 ดาวรุ่งเจ็ตสกีไทย อคิน นิพัทธเจริญ, ธนัฐชัย พิมพ์เจริญ และ ธนวินญ์ โมลี ผลงานร้อนแรงในวันแรกของศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก “การบินไทย เวิลด์ คัพ 2019” ที่พัทยาเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. โดยรายการนี้เป็นรายการแชมป์โลกชนแชมป์โลก เพื่อหาแชมป์โลกตัวจริงของ “เจ็ตสกี เวิลด์ ซีรีส์ 2019” ภายใต้ลิขสิทธิการแข่งขันของไทย ซึ่งล่าสุดคณะกรรมาธิการกีฬา วุฒิสภา ชื่นชมเป็นทัวร์นาเม้นต์ที่มุ่งเป้าหมายสร้างประโยชน์ให้ประเทศไทย

ศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก “การบินไทย เวิลด์ คัพ 2019” ที่หาดจอมเทียน พัทยา สนามตัดสินแชมป์โลกชนแชมป์โลก “เวิลด์ ซีรีส์ 2019” ต่อจาก ศึกชิงแชมป์ยุโรปที่เบลเยี่ยมและ เวิลด์ ไฟนอล ที่สหรัฐ เริ่มการแข่งขันอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. โดยการชิงแชมป์โลกเวิลด์ ซีรีส์ ทั้ง 3 รายการมีประเทศไทยเป็นเจ้าของลิขสิทธิทุกรายการ

ไฮไลท์ของการแข่งขันเป็นการลุ้นแชมป์ในรุ่นเยาวชนและมือใหม่ที่มีเยาวชนทีมชาติไทยลงลุ้นแชมป์กันหลายคน เริ่มจากรุ่นเยาวชนเจ็ตสกียืนอายุ 13-15 ปี ห้ามแต่งเครื่องยนต์(Junior 13-15 Ski Stock) นักแข่งดาวรุ่งของไทยลงสู้กับดาวรุ่งมือดีจาก ออสเตรเลีย, สหรัฐ, ฟินแลนด์ และ อินโดนีเซียทำการแข่งขันกัน 4 โมโต

โมโตแรกเป็น ศุภฤกษ์ ด่านสถาพร ที่ออกนำตั้งแต่ต้นจนเข้าที่ 1 ตามมาด้วยอีก 2 นักแข่งไทยคือ อคิน นิพัทธเจริญและ ภูริภัทร ทองก้อน ก่อนที่โมโต 2 ยังเป็นการขับเคี่ยวกันเองของนักแข่งไทย เป็น อคิน ที่ทำผลงานได้ดีขึ้นเข้าที่ 1 บ้าง ทำให้กลายเป็นผู้มีคะแนนนำเมื่อจบ 2 โมโตแรก 113 คะแนน

อันดับ 2 ยังเป็นนักแข่งไทย ศุภฤกษ์ 108 คะแนน และอันดับ 3 ภูริภัทร 101 คะแนน ทำให้รุ่นนี้แชมป์โลกน่าจะอยู่ในไทย แม้ยังต้องลุ้นกันต่ออีก 2 โมโตในวันที่ 6 ธ.ค.

ขณะที่รุ่นมือใหม่เจ็ตสกีนั่ง ห้ามแต่งเครื่องยนต์ (Novice Runabout Stock) ที่เป็นเวทีของนักแข่งดาวรุ่งเช่นกัน เป็น ธนัฐชัย พิมพ์เจริญ ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ควบเรือเข้าที่ 1 คนเดียว 2 โมโต ทำให้มี 120 คะแนนเต็ม ก่อนจะไปลุ้นแชมป์กันต่อใน 2 โมโตสุดท้าย

อันดับ 2 โมฮาเหม็ด อับดุลราซัค จากยูเออี มี 106 คะแนน และอันดับ 3 ธนินท์รัฐ มงคลนันทิภาคย์ มี 96 คะแนน

รุ่นมือใหม่เจ็ตสกียืน ห้ามแต่งเครื่องยนต์ (Novice Ski Stock) ที่เริ่มทำการแข่งขันโมโตแรกจาก 3 โมโต ดาวรุ่งไทยออกตัวได้ดีกว่ามือดีจากออสเตรเลีย, สหรัฐ และ จีน โดย “แฝดสายฟ้า” ธนวิชท์ กับ ธนวินญ์ โมลี ที่อายุยังไม่เต็ม 14 ปี แย่งอันดับ 1 กันเอง สุดท้ายเป็น ธนวินญ์ ที่เข้าเส้นชัยได้ก่อนมี 60 คะแนน ตามด้วย ธนวิชท์ 53 คะแนน และอันดับ 3 ยังเป็นนักแข่งไทย พชร หน่อเนื้อ 48 คะแนน

ส่วนรุ่นอื่นๆที่นักแข่งไทยทำผลงานมีลุ้นแชมป์คือ เพียรรัตน์ ศรีคงรักษ์ ได้อันดับ 1 โมโตแรกรุ่นมือใหม่เจ็ตสกีนั่ง 1,100 ซีซีห้ามแต่งเครื่องยนต์ และ ธีระพงษ์ พิมพาวัตร มีคะแนนรวมอันดับ 3 ใน 2 โมโตแรกของรุ่นกึ่งอาชีพเจ็ตสกีนั่งจำกัดการแต่งเครื่องยนต์

ขณะเดียวกันคณะกรรมาธิการกีฬา วุฒิสภา ชื่นชมผลงานการจัดการแข่งขัน เจ็ตสกีเวิลด์คัพ 2019 หลังได้รับรายงานความสำเร็จและเป้าหมายจาก นายปริเขต สืบสหการ ผู้อำนวยการทัวร์นาเม้นต์

นายปริเขต เผยว่าได้นำเสนอข้อมูลในแง่ มุมต่างๆอย่างละเอียดในการสร้างประโยชน์แก่ประเทศไทย โดยในฐานะภาคเอกชน ได้ต่อสู้ขับเคลื่อนกีฬาจากศูนย์ พัฒนากีฬาด้านทรัพย์สินทางปัญญากว่า 20 ปี และภาครัฐช่วยต่อยอด พัฒนาเป็นทัวร์นาเม้นท์เสาหลักของโลก

ขณะนี้ เจ็ตสกีเวิลด์คัพ เป็นทัวร์นาเม้นท์กีฬาไทย ที่ดึงดูดทีมนักกีฬานานาชาติเข้ามาร่วมงานเกือบ 3,000 คน สร้างประโยชน์เม็ดเงินหมุนเวียนได้กว่า 300-400 ล้านบาท จนไทยพัฒนาทัวร์นาเม้นท์เป็นเสาหลัก อันดับที่ 1 ของโลก

เป็นที่ยอมรับของสื่อระดับโลกด้วย เช่น ยูโรสปอร์ต นำไปออกอากาศทั่วยุโรปกว่า 137 ล้านครัวเรือน หรือฐานการรับชมเกือบ 500 ล้านคน ถือเป็นกลุ่ม เป้าหมายคุณภาพสูงของการท่องเที่ยวไทย ส่วนด้านเกียรติยศกีฬาชาติไทย นานาชาติก็ให้ความเชื่อถือประเทศไทยเป็นผู้นำของโลกแล้วในวันนี้ สมาคมกีฬาเจ็ตสกีทั่วโลก ติดต่อขอเป็นตัวแทนสิทธิ์ไทย แทนที่แต่ก่อนจะต้องขอสิทธิ์ไปแข่งเจ็ตสกีโลก ที่สหรัฐอเมริกา จึงแสดงภาพความสำเร็จระดับโลก ของกีฬาชนิดนี้ของไทยได้อย่างชัดเจน

นอกจากนั้น เรายังทำแผนงานอย่างเป็นทางการ มุ่งเป้าหมายที่จะสร้างประโยชน์ให้ประเทศไทยกว่า 6,800 ล้านบาทต่อปี ในอีก 4 ปีข้างหน้า แบ่งเป็นรายได้จากทัวร์นาเม้นท์เวิลด์คัพ 1,000 ล้านบาท รายได้จากการผลักดันกีฬาและกิจกรรมภายในประเทศ 2,500 ล้านบาท และมูลค่าสื่อโฆษณาประเทศไทย 3,300 ล้านบาท และนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีว่า คณะกรรมาธิการทุกท่าน ชื่นชมกับแผนงานที่มีความตั้งใจอย่างสูงและมีผลสำเร็วเกินความคาดหมาย