ทัพเจ็ตสกีทีมชาติไทย มั่นใจทำผลงานไม่เป็นรองชาติไหนในโลกในศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์โลกรายการ "การบินไทยเจ็ตสกีเวิลด์ ไฟนอล 2019" ที่เมืองเลค ฮาวาซู รัฐแอริโซน่า ประเทศสหรัฐระหว่างวันที่ 5-13 ตุลาคม นายวิรัตน์ ทองใบเพชร เลขาธิการสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยฯเชื่อคลื่นลูกใหม่เจ็ตสกีไทยแข็งแกร่งพอท้าดวลกับสหรัฐเป็นแชมป์ถ้วยคะแนนรวม
ความเคลื่อนไหวศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก "การบินไทยเจ็ตสกีเวิลด์ ไฟนอล 2019" ที่เมืองเลค ฮาวาซู รัฐแอริโซน่า ประเทศสหรัฐ ระหว่างวันที่ 5-13 ตุลาคม ล่าสุดหลังจากทัพนักกีฬาไทยได้ลงซ้อมที่สนามแข่งจริงเป็นวันแรกเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ทุกคนมั่นใจว่าจะทำผลงานได้ดีท้าสู้กับสหรัฐเพื่อทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของโลกในทัวร์นาเม้นต์นี้
นายวิรัตน์ ทองใบเพชร เลขาธิการสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยฯ ที่เดินทางร่วมชมและให้กำลังใจนักกีฬาทีมชาติไทยครั้งนี้ เปิดเผยว่าจากผลงานที่ผ่านมา กีฬาเจ็ตสกีของไทยถือว่าเป็นอันดับ 1 ของโลกทั้งในแง่ความสำเร็จของนักกีฬาและการจัดการแข่งขัน ดังนั้นในทัวร์นาเม้นต์นี้ทางสมาคมฯจึงตั้งความหวังเอาไว้สูงที่การเป็นแชมป์ถ้วยคะแนนรวมเหมือนทุกครั้งที่เดินทางมาแข่งที่สหรัฐ
"ทีมเจ็ตสกีของเราเป็นอันดับ 1 ของโลกอยู่แล้ว เราได้แชมป์มากมายในการแข่งขันชิงแชมป์โลกแต่ละครั้ง ครั้งนี้คือศึกเวิลด์ ไฟนอล รายการชิงแชมป์โลกที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เป้าหมายของเราคือรักษามาตรฐานลุ้นแย่งแชมป์ถ้วยคะแนนรวมกับสหรัฐเจ้าภาพ ซึ่งก็อยู่ที่ว่าชาติไหนจะได้แชมป์ในรุ่นต่างๆมากกว่ากัน"
"ในฐานะตัวแทนสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยฯ ผมได้รับการมอบหมายจากท่าน สนิท วรปัญญา นายกสมาคมฯให้ติดตามดูผลงานและให้กำลังใจนักกีฬาในปีนี้ ได้มีการพูดคุยกับนักกีฬาในทีมแล้วรู้สึกว่าพวกเรามีความพร้อมเต็มที่ แม้ว่านักกีฬาหลายๆคนจะเป็นหน้าใหม่ในระดับโลก แต่เราก็หวังจะสร้างคลื่นลูกใหม่ของวงการเจ็ตสกีไทยขึ้นมาเป็นนักแข่งชั้นนำของโลก"
"นักกีฬาหลายๆคนอาจจะยังขาดประสบการณ์ในระดับนี้ แต่การแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยของเราก็สร้างความแข็งแกร่งได้อย่างดี จากมาตรฐานของเราอย่างน้อยไม่พลาดการติดอันดับ 1 ใน 2 ของโลกแน่นอน ผมขอให้ชาวไทยฝากให้กำลังใจนักกีฬาทุกคนด้วยครับ" นายวิรัตน์ กล่าว
สำหรับการชิงชัยที่มีตำแหน่งแชมป์โลกในแต่ละรุ่นเป็นเดิมพัน วันแรกวันที่ 8 ตุลาคม จะมีนักกีฬาไทยลงชิงชัย 4 รุ่น มีลุ้นในรุ่นสมัครเล่นและมือใหม่จาก ทวีผล สุขเกษม, สหรัฐ งามสมมิตร, ภานุพันธ์ ดิษฐี, บุ๊ค เสริมสุวรรณ และ นนทวัชร์ พิมพ์เจริญ