ทัพเจ็ตสกีทีมชาติไทย เปิดตัวสุดหรูคว้า 2 แชมป์โลก ในวันแรกของศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก "เวิลด์ ไฟนอล 2018" ที่ เลค ฮาวาซู ซิตี้ รัฐอริโซน่า ประเทศสหรัฐ อเมริกา เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ทศวนนท์ เผือกผ่อง คว้ารุ่นเจ็ตสกีนั่งสมัครเล่น 1,100 ซีซี ขณะที่ดาวรุ่งอย่าง นันทวัฒน์ สิงห์อุไร เป็นแชมป์โลกมือใหม่เจ็ตสกียืน

ศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์โลก "เวิลด์ ไฟนอล 2018" ที่ เลค ฮาวาซู ซิตี้ รัฐอริโซน่า ประเทศสหรัฐ อเมริกา ระหว่างวันที่ 1-7 ตุลาคม ในการแข่งขันชิงแชมป์โลกวันแรกวันที่ 2 ตุลาคม ปรากฏว่าเพียงแค่วันแรก ทัพนักกีฬาทีมชาติไทยคว้าตำแหน่งแชมป์โลกมาได้แล้ว 2 รุ่น ในรุ่นสมัครเล่นเจ็ตสกีนั่ง 1,100 ซีซีจำกัดการแต่งเครื่องยนต์ (Amateur Runabout 1,100 Limited) ทศวนนท์ เผือกผ่อง ลงลุ้นแชมป์ร่วมกับนักแข่งสหรัฐเจ้าถิ่นหลายคน แต่ก็ออกตัวได้ดีตั้งแต่โมโตแรก ออกนำและเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1

ก่อนที่รูปเกมในโมโต 2 ซึ่งเป็นโมโตตัดสิน ทศวนนท์ ออกตัวได้สูสีกับ โรเซนา บราบัม จากรัฐอินเดียนา โดยนักแข่งไทยนำอยู่เล็กน้อย ก่อนจะเร่งความเร็วหนีห่างไปจนเข้าที่ 1 อีกโมโต เก็บ 2 คะแนน คว้าแชมป์ตามกฏของเวิลด์ ไฟนอล ที่ใครคะแนนน้อยที่สุดจะคว้าแชมป์ไป ทศวนนท์ จึงได้แชมป์โลกเป็นครั้งแรกหลังจากพยายามมาเป็นปีที่ 3  อันดับ 2 เป็นของ โรเซนา บราบัม  6 คะแนน และอันดับ 3  เจมส์ อลามิโญ นักแข่งจากรัฐแคลิฟอร์เนีย 7 คะแนน โดยที่นักแข่งไทยคนอื่นๆในรุ่นนี้มี ชลิตา เกื้อจรูญ เรือมีปัญหาในโมโต 2 หมดลุ้นอย่างน่าเสียดาย และ ธีรภัทร มีชัย ได้อันดับ 7 ในโมโตแรก และอันดับ 8 ในโมโต 2 มี 15 คะแนนได้อันดับ 7

ขณะที่รุ่นมือใหม่เจ็ตสกียืน ห้ามแต่งเครื่องยนต์ (Novice Ski Stock) นักกีฬาดาวรุ่งของไทยมีลุ้นแชมป์ตั้งแต่โมโตแรกเป็น นันทวัฒน์ สิงห์อุไร เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ในโมโตแรก ขณะที่ เพียรรัตน์  ศรีคงรักษ์ เข้ามาเป็นที่ 7
ทำให้โมโต 2 นันทวัฒน์ ลงมาชิงดำการเป็นแชมป์โลกกับ เคลาดิโอ ริเวโรลา จากอาร์เจนตินาที่เข้าที่ 2 ในโมโตแรก เป็น ริเวโรลา ที่ออกตัวได้ดีกว่าขึ้นนำอันดับ 1 โดยที่ นันทวัฒน์ วัย 15 ปี พยายามไล่กวดจนมาจี้ติดในรอบสุดท้าย ก่อน ริเวโรลา จะเฉือนเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ก่อนเล็กน้อย อย่างไรก็ตามหลังจากที่เรือทุกลำเข้าเส้นชัยแล้ว ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันเห็นว่า ริเวโรลา ทำฟาวล์ตอนออกสตาร์ท ทำให้ถูกปรับไป 2 อันดับกลายเป็นที่ 3 ในโมโตนี้ และ นันทวัฒน์ เป็นอันดับ 1 แทน รวม 2 โมโตมี 2 คะแนนคว้าแชมป์โลกได้เป็นครั้งแรกเช่นกัน อันดับ 2 ได้แก่ ซาเลม อัลมูทาว่า จากคูเวตที่มี 5 คะแนนเท่ากับ ริเวโรลา แต่ผลงานในโมโตสุดท้ายนักแข่งคูเวตทำได้ดีกว่า ริเวโรลา จึงเป็นเพียงแค่อันดับ 3 ส่วน เพียรรัตน์ ได้เพียงอันดับ 10 ในโมโต 2 ไม่ติด 5 อันดับแรก

ขณะที่รุ่นอื่นๆที่นักแข่งไทยลงทำการแข่งขันมีในรุ่นเจ็ตสกีนั่งกึ่งอาชีพอายุ 35 ปีขึ้นไปจำกัดการแต่งเครื่องยนต์ ทีมชาติไทยมี ทวีผล สุขเกษม กับ ธีระพงษ์ พิมพาวัตร ลงสู้กับตัวเต็งจาก คูเวต และสหรัฐฯ ปรากฏว่านักแข่งไทยต้องเจอกับคู่แข่งที่มีงบประมาณในการปรับแต่งเครื่องยนต์มากกว่าทำให้ ทวีผล ได้เพียงอันดับ 7 ในโมโตแรก และอันดับ 6 ในโมโต 2 มี 13 คะแนน ได้อันดับ 5 ขณะที่ ธีระพงษ์ ได้ 14 คะแนนเป็นอันดับ 7 ส่วนแชมป์เป็น ทรอย สไนย์เดอร์ จากรัฐฟลอริด้า ได้ 2 คะแนน