เจ็ตสกีโปรทัวร์ 2024 ชิงแชมป์ประเทศไทย
เจ้าภาพจัดการแข่งขัน พอใจอย่างยิ่ง! ศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย “วานา นาวา วอเตอร์ จังเกิล - โตโยต้า วอเตอร์เจ็ต โปรทัวร์ ไทยแลนด์ 2024”
อัพเดทโพสต์เมื่อ 13/04/2024
สนามเปิดฤดูกาล ของศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย “วานา นาวา วอเตอร์ จังเกิล - โตโยต้า วอเตอร์เจ็ต โปรทัวร์ ไทยแลนด์ 2024” ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม บิ๊กสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขัน พอใจในผลงานที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ “สปอร์ตทัวริซึ่ม” ให้เมืองหัวหิน พร้อมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ของทางจังหวัดให้คึกคักเป็นอย่างยิ่ง
ศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย สนามเปิดฤดูกาล “วานา นาวา วอเตอร์ จังเกิล - โตโยต้า วอเตอร์เจ็ต โปรทัวร์ ไทยแลนด์ 2024” (VANA NAVA WATER JUNGLE - TOYOTA WATERJET PRO TOUR THAILAND 2024) ที่หาดหัวดอน หมู่บ้านเขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยความสำเร็จอย่างงดงาม กับการใช้กีฬาส่งเสริมการท่องเที่ยวตามโครงการ “สปอร์ตทัวริชึ่ม” ของทางรัฐบาล ที่ดึงดูดให้ผู้คนมาเยือนเมืองหัวหินในช่วงวันหยุดยาวลองวีคเอนด์กันอย่างคึกคักทั้งนักกีฬา ผู้ติดตาม และกองเชียร์จากทั่วประเทศ
โดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขันสนามแรกของศึก วานา นาวา วอเตอร์ จังเกิล - โตโยต้าวอเตอร์เจ็ต โปรทัวร์ ไทยแลนด์ 2024 กล่าวเปิดเผยว่า ถือเป็นเรื่องน่ายินดี ที่ภาคเอกชนร่วมกับสมาคมกีฬาต่าง ๆ ผนึกกำลังจัดกิจกรรมร่วมกัน เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับการท่องเที่ยวและกีฬาของประเทศ โดยครั้งนี้การแข่งขันเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย เป็นความร่วมมือกันระหว่าง สมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทยฯ กับ สวนน้ำวานา นาวา จัดสนามที่ 1 จากทั้งหมด 4 สนาม ที่จะตระเวนไปจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งเจ็ตสกีเป็นกีฬาที่อยู่กับนำ้ แข่งในทะเล แม่นำ้ ทะเลสาป ซึ่งมีความสวยงามอยู่แล้ว ถือเป็นการโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวให้คนรู้จักได้เป็นอย่างดี เพราะมีการถ่ายทอดทีวีออกไปทั่ว เป็นโมเดลที่ดีที่ภาคเอกชน จะร่วมกับ สมาคมกีฬา ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบอล เทนนิส เทควันโด แบดมินตัน ฯลฯ เอานักกีฬาดัง ๆ ไปออกอีเวนท์ระดับอินเตอร์ ไปแข่งตามเมืองต่าง ๆ ช่วยพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัด และเมืองรอง สร้างความเข้มแข็ง กระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างทั่วถึง
นายสุวัจน์ ให้ความเห็นต่อไปว่า การลงทุนระดับโลกตอนนี้มีความสับสน เพราะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งภูมิรัฐศาสตร์ โรคระบาด เงินเฟ้อ สงครามต่าง ๆ ดังนั้นความเข้มแข็งที่สุดของเมืองไทยจึงอยู่ที่การท่องเที่ยว ซึ่งรัฐบาลต้องให้ความร่วมมือทั้ง ฟรีวีซ่า มีอีเวนต์ต่าง ๆที่ดึงดูด เรียกว่าต้องใช้ทุกทรัพยากรให้เกิดประโยชน์ ในการสร้างความสุขกับผู้มาเยือน อย่างเจตสกีโปรทัวร์มาแข่ง 2 วัน มีกองเชียร์ ญาติพี่น้อง รวมทั้งนักกีฬา มาที่หัวหิน 2-3 พันคน มีคนท้องถิ่นมาร่วมกิจกรรม เต็นท์ขายอาหารยาวเหยียดสี่ถึงห้าร้อยเมตร ซึ่งนี่คือโมเดลที่ภาคเอกชนมาช่วยเหลือประเทศ แบบปิดทองพระ ด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยว
“การพัฒนาให้เมืองหัวหินเป็น สปอร์ตซิตี้ เราได้เริ่มมานานแล้ว โดยสมัยก่อนผมเป็นนายกสมาคมลอนเทนนิสฯ ก็เคยเชิญ มาเรีย ชาราโปวา มาแข่งที่หัวหิน และได้ให้เขาทำกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการตื่นเช้ามาใส่บาตรที่ริมหาดหัวหิน ซึ่งภาพของ ชาราโปวา ที่เป็นเซเลบริตี้ที่สวยอันดับ 1 ในวงการกีฬาโลกขณะนั้น ถือเป็นภาพตัวอย่างของ สปอร์ตทัวริชึ่ม ที่เอานักกีฬาดัง ๆ มาช่วยโปรโมตวัฒนธรรมไทย และการท่องเที่ยว ได้เป็นอย่างดี ทำให้ความนิยมเรื่องกีฬาเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะที่หัวหินเป็นเมืองชายฝั่งทะเลที่งดงาม มีความพร้อมและศักยภาพทุกอย่าง จัดได้หมด ทั้ง วิ่งมาราธอน,จักรยาน,กีฬาทางน้ำ เทนนิสระดับโลกก็จัดมาแล้วหลายครั้งที่ทรูอารีน่า นอกจากนี้ยังมีทีมฟุตบอลจากต่างประเทศมาเก็บตัวฝึกซ้อมเป็นประจำ เพราะเรามีสนามมาตรฐานฟีฟา มีสปอร์ตคลับทันสมัยให้เลือกใช้บริการมากมาย เรียกว่าโครงสร้างพื้ฐานของหัวหินพร้อมทุกด้าน ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะให้การสนับสนุนเอา 3 ประสานคือ เอกชน ภาครัฐ และสมาคมกีฬา มาใช้ศักยภาพร่วมกันได้มากเพียงใดเท่านั้น” นายสุวัจน์ กล่าวในตอนท้าย
ขณะเดียวกัน ทางด้าน นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เผยถึงความสำเร็จของการจัดศึกเจ็ตสกีโปรทัวร์ในครั้งนี้ว่า การจัดอีเวนท์ในประจวบฯ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมอะไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นคือมีผู้คนเดินทางมาเยือนจังหวัดของเรา มาพัก มาทานอาหาร จับจ่ายใช้สอย อันเป็นการกระจายรายได้ให้คนพื้นที่โดยตรง ที่สำคัญยังช่วยประชาสัมพันธ์ให้คนได้รู้จักประจวบคีรีขันธ์มากขึ้น เพราะมีสื่อเข้ามานำเสนอโปรโมตภาพสวยงามให้คนอยากมาเที่ยว จริงๆแล้ว หัวหิน มีศักยภาพจัดกีฬาได้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น กอล์ฟ เทนนิส กีฬาทางน้ำ เพราะโครงสร้างทางกายภาพหลายอย่างเราได้เปรียบที่อื่น ส่วนการจะพัฒนาเป็น “เมืองกีฬา” เต็มรูปแบบนั้น จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนมาช่วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ราชการ ซึ่งถ้ามีการวางแนวทางดี ๆ อนาคตไปได้สวยแน่นอน
ส่วนนางจิราพร กาญจนพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักวางแผนและพัฒนาของสมาคมกีฬาเจ็ตสกีแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้จัดการแข่งขัน กล่าวว่า เราไม่ได้มาแข่งที่สนามทะเลนานแล้ว โปรทัวร์ปีก่อนเราก็จัดที่สนามนำ้จืดทั้ง 4 สนาม ดังนั้นการได้มาแข่งที่หัวหิน จึงเป็นอะไรที่ท้าทายความสามารถนักกีฬา เพราะต้องเจอทั้งธรรมชาติ คลื่นลม สารพัด ซึ่งจะช่วยพัฒนาศักยภาพของนักเจ็ตสกีได้เป็นอย่างดี ซึ่งหัวหินมีชายหาดที่กว้างมาก การเดินทางก็สะดวกใกล้กรุงเทพ และเป็นเซนเตอร์ของนักแข่งจากทุกภาคทั่วประเทศ ไม่ว่าจะมาจาก ใต้ เหนือ อีสาน มาได้ไม่ยากเลย บรรยากาศก็ดี มีที่พักให้เลือกหลากหลาย เรียกว่าทุกคนแฮปปี้กันหมด กับสนามแรกที่เพิ่งผ่านพ้นไป ไม่เว้นแม้นักกีฬาต่างชาติจากรัสเซีย ฟิลิปปินส์ ที่ต่างประทับใจในบรรยากาศ และบินมาแข่งในบ้านเราเป็นประจำ
นอกจากนี้ “ผอ.เขียด” ยังได้เผยถึงแผนงานสมาคมฯ ในการพัฒนากีฬาเจ็ตสกีปีนี้ว่า เราพยายามขยายฐานนักกีฬาให้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเจ็ตสกีในเด็ก เมื่อก่อนมีนักแข่งแค่ 10-20 คน แต่เดี๋ยวนี้เพิ่มเป็น 50-60 แล้ว และอนาคตจะมีเพิ่มมากกว่านี้แน่นอน เพราะสมาคมฯ พร้อมสนับสนุนเยาวชนสายเลือดใหม่จากทุกจังหวัดอย่างเต็มที่ อยากให้ลูกหลานนักเจ็ตสกี ที่เห็นกีฬานี้มาตั้งแต่เด็ก เติบโตขึ้นไปจากรุ่นจูเนียร์ ไปสู่รุ่นโนวิช มือใหม่ ไต่ไปจนถึงรุ่งกึ่งอาชีพ และพัฒนาไปถึงรุ่นโปรมืออาชีพในที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่ทัวร์นาเมนต์โปรทัวร์เมื่อแข่งครบ 4 สนามแล้วเราจะคัดตัวแทนทีมชาติไปแข่งเวิลด์ไฟนัลที่สหรัฐอเมริกา มีนักกีฬาเยาวชนหลายคนสนใจที่จะไปแข่งเพิ่มมากขึ้นทุกปี ขณะเดียวกันในปีนี้ก็จะมีรายการเอเชี่ยนแชมเปี้ยนชิพที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นมา ซึ่งมีนักกีฬาไทยตอบรับมาแล้วกว่า 30 คน รวมถึงนักเจ็ตสกีเยาวชนด้วย เพราะมีรุ่นการแข่งขันที่คล้ายกับโปรทัวร์ โดยเปิดโอกาสให้เด็กไทยได้ไปโชว์ฝีมือในเวทีโลกอย่างเต็มที่
ร่วมกด Like Follow และ Subscribe ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของนักเจ็ตสกีไทยและการแข่งขัน “โตโยต้า วอเตอร์เจ็ต โปรทัวร์ ไทยแลนด์ 2024” สนามที่ 2 ได้ทาง :
Website : https://jetskiprotour.com
Facebook : jetskiprotour
Youtube : Jetski Protour
Instagram : jetski_protour
Tiktok : jetski_protour