นับถอยหลังสู่ 'ศึกเจ็ตสกีโปรทัวร์ 2022' สนาม 3 อย่างคึกคัก โดย จังหวัดศรีสะเกษ "เมืองกีฬา" ประกาศความพร้อมเกินร้อยในการเป็นเจ้าภาพ "ส.ส.โต้ง" สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โต้โผใหญ่ของงานนี้ โดดลงมาดูแลการเตรียมงานทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิดด้วยตัวเอง มั่นใจโชว์ศักยภาพ "สปอร์ตซิตี้" แถวหน้าของประเทศได้ชัวร์ เชื่อมั่นทัวร์นาเมนต์นี้จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของถิ่นอีสานใต้ที่ซบเซามานานจากพิษโควิด-19 ให้คืนกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน ขณะที่เกมส์การชิงชัยบนผืนน้ำ เข้มข้น ทะลักจุดเดือด!! กับการแย่งแชมป์ใน 4 รุ่นโปร ที่เป็นการขับเคี่ยวของสุดยอดนักซิ่งเจ็ตสกีมือพระกาฬของเมืองไทยในยุคนี้ล้วนๆ
เหลืออีกอึดใจเดียว ศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2565 หรือที่รู้จักกันดีในชื่อรายการ “เจ็ตสกีโปรทัวร์ 2022” ก็จะเปิดฉากชิงชัยสนามที่ 3 กันแล้ว ที่จังหวัดศรีสะเกษ “เมืองกีฬา” แห่งดินแดนอีสานใต้ ในสุดสัปดาห์นี้ วันเสาร์ และอาทิตย์ที่ 4-5 มิ.ย. ที่สังเวียนเกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยใช้จัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ “ศรีสะเกษเกมส์” เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยในส่วนการเตรียมความพร้อมของทางเจ้าภาพจังหวัดศรีสะเกษ ถึงตอนนี้นับว่าทุกฝ่ายมีความพร้อมเกินร้อยในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่จัดการแข่งขัน การประชาสัมพันธ์ และโรงแรม ที่พัก ฯลฯ เพื่อรอต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่นักกีฬาเจ็ตสกี รวมทั้งทีมงาน และแฟนกีฬาผู้ชื่นชอบการประลองความเร็วบนผิวน้ำที่จะเดินทางมาเยือนนครลำดวนอย่างเต็มที่
|
|
|
|
โดยในส่วนของ “ส.ส.โต้ง”สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดศรีสะเกษ โต้โผใหญ่ของงานนี้ ได้ลงมากำกับดูแลการเตรียมงานทุกอย่างด้วยตัวเอง โดยทำงานร่วมกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัด วัฒนา พุฒิชาติ และหน่วยงานราชการในจังหวัดทั้งหมด ดูแลประสานร่วมกับฝ่ายจัดการแข่งขัน อภิรักษ์ เผ่าเจริญ ผู้อำนวยการทัวร์นาเม้นท์ เพื่อให้ศึกเจ็ตสกีโปรทัวร์ ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับประเทศ และเป็นการคัดตัวนักกีฬาทีมชาติไทยไปแข่งขันเวิลด์ซีรี่ส์ในทวีปยุโรป และอเมริกา รวมถึงมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ เอเชียนบีชเกมส์ รวมถึง ซีเกมส์ ในปีหน้าที่ประเทศกัมพูชา มีความพร้อมและสมบูรณ์แบบมากที่สุด สมกับที่จังหวัดศรีสะเกษถูกยกย่องให้เป็นสปอร์ตซิตี้ หรือเมืองกีฬาระดับแถวหน้าของเมืองไทย ขณะเดียวกันก็เชื่อว่าเกมส์การชิงชัยของนักแข่งเจ็ตสกีมือกาฬจากทั่วสารทิศ จะสร้างความสุขสนุกสนานให้กับพี่น้องชาวศรีสะเกษและจังหวัดใกล้เคียงที่เดินทางมาสัมผัสศึกนี้ด้วยตาตัวเองที่ขอบสนาม รวมทั้งเป็นการใช้นโยบายกีฬามากระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่ซบเซาไปนานจากพิษโควิด 19 ให้กลับมาคึกคักดังเดิม
ขณะเดียวกันในส่วนความเข้มข้นของเกมส์การแข่งขันที่จะเกิดขึ้น ต้องบอกว่าพลาดไม่ได้เพราะแทบทุกรุ่นต่างมีคะแนนคู่คี่สูสี เบียดบี้กันมาตลอดในช่วง 2 สนามแรกที่ผ่านมา ทั้งที่จังหวัดพิจิตร และเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธษนี จนยากจะคาดเดาว่าใครจะสมหวังเป็นแชมป์ประเทศไทยเมื่อจบการชิงชัยทั้ง 4 สนาม โดยเฉพาะใน 4 รุ่นโปร มืออาชีพสูงสุด ที่เป็นการขับเคี่ยวของนักเจ็ตสกีสุดยอดมือพระกาฬของเมืองไทยในยุคนี้ล้วนๆ
เริ่มจากรุ่นเรือยืนอาชีพ โมดิฟายด์ (PRO-AM SKI MODIFIED) ที่ “เจ้าบุ้น” นันทวัชร์ สิงห์อุไร ยอดนักแข่งแถวหน้าของเมืองไทยจากทีม DRAGON JET RED BULL TEAM BANGKOK ซึ่งเก็บไปแล้ว 99 คะแนน จาก 2 สนามที่ผ่านมา นำเป็นที่ 1 ในรุ่นนี้ โดยมี มุสตาน มิน ยอดฝีมือจากทีมดัง FLAMINGO JET SKI TEAM CHONBURI กับ อานนท์ หงส์กลาง สังกัด FKT CONCRETE ไล่ตามมาเป็นอันดับ 2 ร่วม ที่ 96 คะแนนเท่ากัน โดยช่องว่างที่ห่างกันอยู่เพียง 3 แต้มเท่านั้น อะไรก็เกิดขึ้นได้ในอีก 2 สนามที่เหลือ
ส่วนรุ่นเรือนั่งอาชีพประเภทสปอร์ต (SPORT GP) สุภัค เสร็จธุระ สุดยอดนักซิ่งบนผิวน้ำ แชมป์ 10 สมัยในรุ่นนี้ ผู้มากฝีมือจากทีม FREEDOM RACING JET SKI TEAM TIEN TALAY BANGKOK นำอันดับ 1 เริ่มโกยแต้มทิ้งห่างผู้ตามที่ 120 คะแนน โดยมี ธภัทรวัฒน์ โจสรรค์นุสนธิ์ คู่ต่อกรจาก RACHABURI JET SKI TEAM BY RANGSIT UNIVERSITY รั้งอยู่ที่ 2 ด้วยคะแนน 101 แต้ม ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ ธีรภัทร มีชัย จาก ESAN JET SKI UBON, AMNAT, ROI ET, SARAKHAM ที่มีอยู่ 92 คะแนน
ขยับมาดูที่รุ่นเรือนั่งอาชีพ เครื่องยนต์ 1100 ซีซี ปรับแต่งเครื่องยนต์ (PRO-AM RUNABOUT 1100 OPEN) ก็เดือดไม่แพ้รุ่นแรก เมื่อ 2 ยอดนักซิ่งบนผิวน้ำมือพระกาฬ สุภทัต ฟูตระกูล จาก K45 MAXIMA YAMAHA TEAM PAW เป็นผู้นำร่วมกับ ทศวนนท์ เผือกผ่อง ของ SUPERJET&JS RACING TEAM ด้วยการมีแต้มสะสมที่ 113 คะแนนเท่ากัน ขณะที่ บุ๊ค เสริมสุวรรณ นักแข่งมือเก๋า ของทีม HOUSE OF BULLDOGS YAMAHA WAVERUNNER THAILAND ตามมาเป็นอันดับ 3 ที่ 96 คะแนน
และ ในรุ่นเรืออาชีพ จีพี รุ่นยักษ์ใหญ่ที่สุดของรายการ (PRO-AM RUNABOUT GP) ตำแหน่งแชมป์ประเทศไทยก็ยังดูลำบาก หลัง เพิ่มพล ธีรพัฒนพาณิชย์ ยอดนักแข่งจากทีม PUSAN SEADOO JET SKI TEAM NAKHONPATHOM มีคะแนนนำอยู่ที่ 113 แต้ม ซึ่งก็ไม่ห่างจากผู้ตามอันดับ 2 เลิศพงศ์ ขุนเจ๋ง จาก SUPERJET&JS RACING TEAM ที่มีแต้มสะสมที่ 108 คะแนน โดยช่องว่างคะแนนที่ห่างกันเพียง 5 แต้มเท่านั้น สถานการณ์พลิกผันบนบัลลังค์แชมป์ในรุ่นซูเปอร์บิ๊กจึงค่อนข้างเดาลำบากกับ 2 สนามสุดท้ายที่กำลังจะระเบิดขึ้น ส่วนแชมป์เก่า ธีระ เสร็จธุระ เพื่อนร่วมทีมของ เลิศพงศ์ มีอยู่ 96 คะแนน โอกาสลุ้นแซงผู้นำก็คงเหนื่อยหน่อย แต่ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้กับการป้องกันแชมป์ประเทศไทย ถ้าผลงานที่เหลือกวาดแชมป์ได้อย่างขาดลอยเรียบวุธ
ซึ่งนอกจากความมันส์ของศึกเจ็ตสกีระดับสุดยอดของประเทศแล้ว ในศึกโปรทัวร์ครั้งนี้ ก็จะมีการชิงชัย “เจ็ตเซิร์ฟแชมเปี้ยนชิพ 2022” กีฬาทางนำ้ชนิดใหม่ของเมืองไทย ที่จัดร่วมอยู่กับรายการเจ็ตสกีโปรทัวร์ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน รวมอยู่ด้วย โดยคะแนนสะสมใน 2 สนามที่ผ่านมา ของผู้นำร่วมต่างคู่คี่ สูสีกัน มาตลอด โดย“เดอะต้น”ธรรมศักดิ์ เติมจิตต์อารีย์ นักเจ็ตเซิร์ฟมือเก๋าที่เริ่มเล่นกีฬาชนิดนี้มาก่อนใคร ที่เป็นเจ้าของแชมป์ประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว 2021 ต้องเจอกระดูกชิ้นโต คือ ดาวรุ่งพุ่งแรง วัย 13 ปี อย่าง “น้องเพชร”วัชรศักดิ์ จันทร ที่เพิ่งไปสร้างชื่อคว้ารองแชมป์ยุโรปรุ่นจูเนียร์ ในรายการ MotoSurf World Championship ที่สาธารณรัฐเช็ค มาเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งทั้งคู่มีแต้มเท่ากันที่ 113 คะแนน ในรุ่นมืออาชีพ (PRO) ส่วนอีกคนที่ไล่ตามมาในอันดับ 3 คือ นทัธพงศ์ คุณาจิระกุล ที่มีอยู่ 96 คะแนน ซึ่งใครจะสมหวังยึดโพเดียมสนามที่ 3 นี้ก็ต้องรอดูกัน
สำหรับคอกีฬาที่ชื่นชอบความเร็วบนผืนน้ำ รวมทั้งแฟนๆกีฬาเจ็ตสกี และเจ็ตเซิร์ฟทั่วประเทศ ต้องไม่พลาดติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย “โปรทัวร์” ประจำปี 2565 ได้ทาง www.jetskiprotour.com และเฟซบุ๊ก jetskiprotour